ปิล็อก ไปลอง แล้วจะรัก ทริปวันหยุด เที่ยวกาญจนบุรี

บ้านอีต่อง ปิล็อก
ถ่ายรูปเสร็จก็เดินทางต่อ และก็ถึงแล้วว บ้านอีต่อง เก็บของ เดินเล่นกันสักพัก ก็หิว แถมฝนตกปรอยๆ เลยเดินหาร้านข้าวกินกันที่ ครัวเจ๊ณี ร้านอาหารที่คิดว่าใหญ่ที่สุดในบ้านอีต่องแล้วล่ะ


ถัดจากร้านเจ๊ณีมาก็เป็นร้านขายโปสการ์ด ก็เหมือนๆ กับหมู่บ้านที่ปายหรือเชียงคานนี่ล่ะ ใครเขียนเสร็จแล้วก็หย่อนตู้แดงข้างๆ นั่นได้เลย ได้บรรยากาศมาท่องเที่ยวแล้วเขียนโปสการ์ดหาใครสักคน ฟีลโรแมนติกดีไหมล่ะ

เราเดินสำรวจเมืองไปเรื่อบๆ ถัดมาก็จะเป็นร้านกาแฟเล็กๆ บางบ้านก็จะเห็นชาวบ้านทีออกมาตั้งขายของหน้าบ้านกัน อย่าง ร้านบาร์บีคิวที่กำลังตั้งร้านกันอยู่เลย แต่เราก็ไม่ได้ลองชิม เพราะเหมือนจะยังปิ้งไม่เสร็จ อดไป ฮ่าๆ และบางบ้านก็เปิดเป็นร้านค้า ขายทั้งของชำและขายเสื้อผ้าพื้นบ้าน แต่ก็เป็นซอยเล็กๆ ซอยเดียว เดินแป๊ปเดียวก็ทั่วแล้วค่ะ ผู้คนก็ไม่ได้พลุกพล่าน อากาศก็ดี เดินได้เรื่อยๆ ชิลไปเลย


สำหรับตรงจุดนี้จะเป็นด้านหน้าหมู่บ้าน มีบ่อน้ำใหญ่ๆ อยู่ตรงกลาง ทั้งแถบนี้ที่เห็นส่วนใหญ่เป็นโฮมสเตย์ทั้งหมดตลอดแนวเลย และที่พักของเราก็คือบ้าน 2 ชั้นสีเหลืองๆ นั่น ชื่อว่า บ้านทานตะวัน โฮมสเตย์นี้น่ารักมากๆ สีสันสดใสแทบจะที่สุดในเมืองทีเดียว


เหมืองปิล็อก
ถ้าเดินจากด้านหน้าเมื่อกี๊มาสุดทาง แล้วเลี้ยวขวาเดินขึ้นเนินมาอีกนิดก็จะเจอ เหมืองปิล็อก แต่ว่าเราไม่ได้เข้าไปข้างใน เลยได้แต่ถ่ายรูปข้างหน้าประตูมา ขึ้นมาอีกนิดก็จะเจอลานจอดเฮลิคอปเตอร์อยู่ด้านขวามือ ลานนี้คนส่วนมากก็มากางเต็นท์นอนกัน ใครไม่อยากนอนโฮมสเตย์ จะลองมานอนกางเต๊นท์บนนี้ดูก็ได้นะ อากาศดี๊ดี

หลังจากนั่งเล่น ถ่ายรูปเล่นบนลานข้างบนจนไม่มีอะไรทำ ก็ลงมาเดินในหมู่บ้านต่อ ในซอยเดิมนั่นล่ะค่ะ ฮ่าๆแวะซื้อชาร้านนี้กับเพื่อนคนละแก้ว จริงๆ เมนูก็เยอะอยู่ แต่ชอบกินชาที่สุด เลยซื้อชานมมาหนึ่งแก้ว ร้านตกแต่งเป็นแนวเก่าๆ วินเทจนิดๆ นั่งเพลินๆ ไปได้เลย เพราะคนไม่มากเท่าไหร่



ซื้อชาเสร็จ ก็มานั่งกินบัวลอยต่อ อากาศเย็นๆ ต้องกินบัวลอยนี่เลย รสชาติธรรมดา พอกินได้ ไม่เข้มข้นเหมือนบัวลอยกรุงเทพฯ แต่ก็ฟิน เพราะอากาศที่นี่ก็เย็นๆ อยู่ ได้บัวลอยร้อนๆ เข้าไปหน่อย โอเคมากๆ นี่แทบจะเรียกได้ว่า เป็นทริปกินแหลกไปแล้วนะ

กลับมาที่พักอีกครั้ง และนี่ก็คือห้องนอนของเราา บ้านทานตะวันมี 2 ชั้น 2 ห้อง เพื่อนจองไว้ทั้งสองห้องเลย บ้านนี้เลยเป็นของเราทั้งหมด ดี๊ดี! ห้องนึงก็นอนได้ 5-6 คน มีเตียงใหญ่แบบนี้ 2 เตียง แล้วก็มีเตียงเสริมขนาดใหญ่ที่พื้นให้อีกหนึ่งเตียง

ฝนตกหนักมากกก หมอกคลุมหมดมองไม่เห็นอะไรเลย เช้ามาก็เลยได้เห็นหมอกลอยอยู่หน้าบ้านเต็มไปหมด อากาศก็ดี หมอกก็เยอะ

มื้อเช้าทางที่พักก็มีให้ เป็นอาหารเช้าธรรมดาๆ ข้าวต้มหมูสับ 1 หม้อ กับปาท่องโก๋ แต่อร่อย เป็นเมนูบ้านๆ ที่เหมาะกินตอนเช้าๆ แบบนี้มาก แถมเบิ้ล 2 ชามไปเลยยังได้

กินเข้าเช้าเสร็จ ก็ได้เวลาเดินทางกันต่อ เพราะเพื่อนอยากไปเที่ยวกันอีกหลายที่ ก่อนลงไปนอนแพอีกหนึ่งคืน และก็ถึงเวลาโบกมือบ๊ายบายปิล็อก

เนินช้างศึก
หลังจากออกจากปิล็อก ก็ขึ้นมาที่ เนินช้างศึก ตอนแรกก็แค่จะมาชมวิว รับลม แต่โชคดีสุดๆ ขึ้นมาเจอทะเลหมอก อากาศหนาวหนาวมากๆ ที่ไม่คิดว่าจะได้เจอในรูปเห็นสวยขนาดไหน ของจริงสวยกว่านี้เยอะ! ตอนที่ขึ้นมาก็สายแล้ว เลยคิดว่าคงไม่ทันดูทะเลหมอกแล้วแหละ แต่พอได้เห็น คือตื่นเต้นมาก


น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
พอถ่ายรูป รับลมเย็น จนหมอกหายหมดแล้ว ก็ไปเที่ยวน้ำตกกันต่อ และก็มาถึง น้ำตกจ๊อกกระดิ่น น้ำตกเล็กเล็กกก แต่น้ำใส ไหลเย็น เห็นตัวปลา

จบการเที่ยวที่ปิล็อกอย่างสวยงาม และแฮปปี้! ทริปนี้ถือเป็นทริปที่สนุกมาก แฮปปี้มาก ได้ไปกับเพื่อนที่นานๆ ทีจะไปเที่ยวกันครบสักที แถมไม่คิดว่าจะเจอหมอก ก็ได้เจอ แฮปปี้สุดดด บอกเลยคำเดียวว่า ปิล็อก ไปลอง แล้วจะรัก จริงๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น